อักษรธรรมล้านนา
อักษรธรรมล้านนา หรือตั๋วเมือง คือ อักษรท้องถิ่นที่นิยมใช้ในพื้นที่เขตภาคเหนือของประเทศไทย ใช้เขียนธรรมใบลาน พับสา หรือศิลาจารึกบางหลัก ส่วนมากมักจะเขียนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ ตำรายา หรือภูมิปัญญาของปราชญ์ท้องถิ่น โดยมีรูปสัณฐานโค้ง มน กลม ป้อม
ในปัจจุบันอักษรธรรมล้านนาได้รับการฟื้นฟูส่งเสริมจากสถาบันต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถาบันทางการศึกษา หน่วยงานทางราชการ สถาบันศาสนาต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ จากผู้รู้ นักปราชญ์ พระภิกษุสงฆ์สามเณรผู้มีภูมิความรู้ เป็นผู้สอนและให้ความรู้ ต่างจากในอดีตที่ผู้สนใจหรือจะศึกษา จะต้องเดินทางไปศึกษากับสำนักวิชาต่างๆ ด้วยตนเอง จนมาถึงช่วงหนึ่งที่ทางหน่วยงานราชการเริ่มต่อต้านผู้ที่ศึกษาอักษรธรรมล้านนา โดยกล่าวหาว่าคนที่ศึกษาหรือมีภูมิความรู้ทางด้านนี้ ว่าเป็นพวกคอมมิวนิสต์ ผู้ที่อยากศึกษาจะต้องเรียนรู้กับครูบาอาจารย์อย่างลับๆ ตอนกลางดึก จนถึงช่วงประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๙ ประชาชนเริ่มขวนขวายหาอดีต ต้องการฟื้นฟูวัฒนธรรมของตนเอง หนึ่งในนั้นก็คือ การนำเอาอักษรธรรมล้านนาเข้ามาสอนในสถานศึกษาต่างๆ
ความเป็นมา
อักษรธรรมล้านนามีการพัฒนามาจากอักษรมอญโบราณซึ่งเข้ามาในสมัยหริภุญไชย โดยมากับพระนางจามเทวี และมีการใช้มาจนสิ้นราชวงศ์ จากการที่พระยามังรายกษัตริย์หิรัญนครเงินยางเข้าตีหริภุญไชยนครเพื่อกวาดล้างเจ้าอิทธิพลเดิม แล้วตั้งตนเป็นเจ้าอิทธิพลใหม่ในพื้นที่ หลังจากที่พระยามังรายได้ยึดเมืองหริภุญไชยจนสำเร็จ ได้้ไปเมืองใหม่ในปี พ.ศ. ๑๘๒๙ โดยโปรดให้ขุดคูเวียงทั้ง ๔ ด้าน ให้น้ำแม่ปิงให้ขังไว้ แต่เวียงกุมกามก็หาจะอยู่ได้นาน สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์แม่น้ำปิงเปลี่ยนทิศเข้าท่วมเวียงกุมกาม พระยามังรายจึงต้องย้ายเมืองใหม่ไปเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ตั้งอาณาจักรล้านนา ตั้งราชวงศ์มังราย ในเรื่องของตัวอักษรพระยามังรายได้นำอักษรมอญโบราณมาดัดแปลงเป็นอักษรของตนเอง นั้นก็คืออักษรธรรมล้านนา โดยมีการใช้อย่างแพร่หลายทั้งราษฎรทั้งหลวง จนหลังจากการถึงแก่พิราลัยของพลตรี มหาอำมาตย์โท เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน ซึ่งเป็นเจ้าประเทศราชองค์สุดท้ายทำให้ราชวงศ์ฝ่ายเหนือสิ้นสุดงานทางการปกครองลง ในเมื่อไร้เจ้าหลวงการใช้อักษรธรรมล้านนาในส่วนหลวงสิ้นสุดลง คงแต่ในส่วนราษฎรที่ยังคงอยู่ แต่เนื่องจากการติดต่อการทางราชการต้องใช้ภาษาไทยและอักษรไทยในการติดต่อสื่อสาร ทำให้อักษรที่ใช้ในการเขียนหมดความสำคัญลง คงแต่ภาษาพูดยังคงอยู่ อักษรธรรมล้านนาจึงเริ่มสูญหายไปจากคนล้านนา จนถึงช่วงปี พ.ศ.๒๕๓๙ เริ่มมีการฟื้นอักษรธรรมล้านนาขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ทั่วถึงเท่าใดนัก พอเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา เริ่มมีการใช้อักษรตะกั่วพิมพ์อักษรธรรมล้านนาลงในใบลาน ซึ่งสามารถพิมพ์ได้ในปริมาณมากๆ โดยจะพิมพ์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เพื่อใช้ในการจำหน่ายให้กับเจ้าศรัทธาเพื่อนำไปถวายวัดเป็นทาน แต่ต่อมาใบลานเริ่มหายาก ทางผู้ผลิตจึงนำกระดาษแผ่นใหญ่ๆ มาพับซ้อนสลับกัน เรียกว่า "ธรรมกระดาษ" หรือ "ลานเทียม" แล้วพิมพ์อักษรธรรมล้านนาหรืออักษรไทยลงไป ซึ่งทำให้สะดวกในการใช้งาน และประหยัดต้นทุน และยังมีการเขียนอักษรธรรมล้านนาลงบนกระดาษไข แล้วนำมาโรเนียวลงบนธรรมกระดาษเพื่อนำมาจำหน่าย พอต่อมาเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เข้ามาเผยแพร่ ทำให้มีผู้รู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ประดิษฐ์ฟอนต์ (Font) อักษรธรรมล้านนาขึ้นเพื่อใช้พิมพ์ในระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีผู้รู้ประดิษฐ์ฟอนต์ขึ้นมาหลาย เช่น อาจารย์ชรินทร์ แจ่มจิตต์ ได้ประดิษฐ์ฟอนต์สกุล Cr ขึ้นมาหลายแบบ อาจารย์อะนาโต ได้ประดิษฐ์ฟอนต์สกุล Ap ขึ้นมา ทั้งสองฟอนต์สามารถใช้ในคอมพิวเตอร์ระบบแมคอินทอช ซึ่งจะต้องสลับแป้นระหว่างโหมดภาษาไทย และโหมดภาษาอังกฤษ ต่อมาอาจารย์ประเสริฐ เกิดไชยวงค์ได้ประดิษฐ์ฟอนต์ Lanna world ให้ใช้ได้กับระบบ Microsoft office แต่ก็เป็นระบบสองแป้นอยู่ ทำให้ใช้งานลำบาก จนคุณพิชัย แสงบุญ ได้ประดิษฐ์ฟอนต์ที่สะดวกที่สุดชื่อ LN Tilok ในการพิมพ์อักษรธรรมล้านนาลงบนคอมพิวเตอร์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น